S-ERUM สบู่เซรัมผิวขาวกระจ่างใส
โพรไฟล์ ไลน์ 0
× ปิด
Logo Head hugtoheal.com
กรองข้อมูลด้วยสติ
อย่าให้ใจถูกครอบงำ
- - - - -
ฮักทูฮีล พื้นที่พักใจ

เข้าใจอาชญากรได้ ด้วยการเข้าใจตัวเราเอง

อาชญากรจะมีแนวคิดว่า การจะเดินแผนให้สำเร็จได้ต้องเริ่มจากการเข้าใจมนุษย์ให้ลึกก่อน ศาสตร์ที่ศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ ความคิด อารมณ์ และสภาพแวดล้อมที่ทำให้ใครสักคนเปลี่ยนจากคนธรรมดามาเป็นอาชญากร

เข้าใจอาชญากรได้ ด้วยการเข้าใจตัวเราเอง
โซเชียล

ผู้เขียน : ฮัก

เผยแพร่ : 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.34 น.

ปรับปรุง : 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 06.00 น.

แชร์ให้เพื่อน

คนใกล้ตัวที่ผมรู้จักโดนพี่มิจตกเป็นเหยื่อไปแบบไว้ใจ เพราะคุยกันทาง whatsapp มานานกว่า 4 ปี แม้ว่าเงินนางจะมีเยอะหลายสิบล้าน แต่ล่าสุด ยอดรวมที่โอนไปแล้วก็ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท 

หลังจากวางสายพร้อมกับเสียงร้องห่ม ร้องไห้ว่า เสียใจที่โดนหลอก ผมก็เข้าไปค้นคว้า หาอ่านความรู้มากมาย เกี่ยวกับภัยทางออนไลน์ทันที ซึ่งมันท่วมท้นมากครับ แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็พยายามสรุปให้เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด ด้วยข้อคิดที่ผมตกผลึกให้ดังนี้

 

1. "เข้าใจมนุษย์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้"

ผมไปเจอคลิปหนึ่งบนโซเชียลมีเดีย เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่หลอกเงินหญิงคนหนึ่งไปกว่าล้านบาท ด้วยการแอบอ้างเป็นทหารอเมริกัน แล้วคุยกับเธอทางไลน์ ทางเฟซบุ๊ก จนเหมือนเป็นแฟนกันจริง ๆ

ผมสงสัยว่า “ทำไมถึงตกเป็นเหยื่อได้นะ”

ความสงสัยนี้ก็พาผมไปเจอกับศาสตร์หนึ่งที่เรียกว่า “อาชญาวิทยา” (Criminology) ศาสตร์ที่ศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ ความคิด อารมณ์ และสภาพแวดล้อมที่ทำให้ใครสักคนเปลี่ยนจากคนธรรมดามาเป็นอาชญากร

สรุปได้ว่า อาชญากรจะมีแนวคิดว่า “การจะเดินแผนให้สำเร็จได้ต้องเริ่มจากการเข้าใจมนุษย์ให้ลึกก่อน”

การทดลองเรื่องสภาพแวดล้อมของ Albert Bandura ที่เอาเด็กมาดูการ์ตูนความรุนแรง แล้วพบว่าเด็กเหล่านั้นมีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมรุนแรงตามแบบที่เห็น  
เด็กที่เคยเห็นปืนในหนัง จะลองหยิบปืนจริงมาเล่นมากกว่าเด็กที่ไม่เคยเห็นเลย

“สื่อไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสาร แต่มันคือ ‘ครู’ ที่สอนพฤติกรรมบางอย่างให้เด็กโดยที่เราไม่รู้ตัว”  

อาจสรุปได้ว่า สภาพแวดล้อมที่เราอยู่เป็นกรอบกำหนดให้เรามีพฤติกรรที่เป็นเหยื่อ และ 'ประเทศไทย' แม่งเหมาะจริง ๆ เพราะวัฒนธรรมที่เอื้ออาทร พร้อมช่วยเหลือคนแปลกหน้าอยู่เสมอ 

ดังนั้น สาเหตุที่เราหลายคนไม่เท่าทันอาชญากรรมอาจเพราะเราไม่ได้เท่าทัน “จิตใจมนุษย์ (อาชญากร)” ที่ใช้เรื่องเดียวกันกับที่เราเรียนรู้ มาล่อลวงเรา

เราคนไทยใช้จิตใจในการช่วยเหลือผู้อื่น แต่อาชญากรใช้ความช่วยเหลือนี้แหละ มาเป็นเหยื่อล่อในการหลอกลวงเราอีกที


2."เราทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้เท่าเทียมกัน"

ผมได้คำตอบจากงานวิจัยทางจิตวิทยาที่บอกว่า คนที่ตกเป็นเหยื่อของ Romance Scam มักมีจุดร่วมกันคือ

  • เหงา
  • เพิ่งเสียคู่สมรสไป
  • ไม่ค่อยเท่าทันเทคโนโลยี
  • และบางครั้ง...ก็แค่อยากมีใครสักคน

นี่คือกลุ่มเปราะบางทางอารมณ์ หรือ ที่ในอาชญาวิทยาเรียกกันว่า Victimology การศึกษาว่าทำไมบางคนถึงตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เพราะเขามีช่องโหว่ทางจิตใจ และคนที่หลอกลวงพวกเขาก็รู้จุดอ่อนนั้นดี

แล้วคำถามคือ  
“เราจะรู้เท่าทันได้ไหม จะระวังตัวได้อย่างไร”

คำตอบ คือ “การตั้งคำถาม” ไม่ใช่คำถามที่ดูเป็นศัตรู แต่เป็นคำถามที่ช่วยปกป้องตัวเอง 

 

เช่น
 
“เอ๊ะ มันแปลกไปหน่อยมั้ย”
“ถ้าดูดีเกินไป มันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้นะ แต่มันคือการที่เราหลอกตัวเองว่านั่นเป็นความรัก”


3. "ความรักที่ดูดีเกินไป บางทีมันอาจไม่ใช่ความรักเลย"

Scammer เขาไม่ได้ใช้เทคนิคซับซ้อน เขาแค่สร้างโปรไฟล์ปลอม ใส่รูปหล่อ ๆ ใส่คำหวาน ๆ ทุกวัน  

สร้างความไว้วางใจอย่างรวดเร็ว แล้วก็เริ่มขอเงิน เพราะ “มีปัญหาด้านภาษี”, “ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมรดก” หรือ “ต้องการเงินกลับมาหาเธอ”

และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ  
“คุณไม่รู้เลยว่าคุณตกเป็นเหยื่อ จนกว่าจะสายเกินไป”

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่า  
ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป มีฐานะ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยี มักไม่ใช่คนโง่ หรือ ไม่รู้ไม่เห็น  

แต่เป็นคนที่ "ใจดีเกินไป" และ "ไว้ใจคนง่าย"
บางครั้งก็แค่รู้สึกว่า “ต้องการใครสักคน” แล้วก็โดนหลอกจนหมดตัว


4. "พฤติกรรมเท่านั้นที่บอกความจริง"

ผมเคยมีประสบการณ์ “โอ๊ย พี่คนนี้ดูดีจัง” แต่พอรู้จักจริง ๆ กลับรู้สึกว่า “เฮ้ย ไม่ใช่ละ อยากกลับไปเป็นคนไม่รู้จักกันมากกว่า”

ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Beauty Bias มนุษย์ถูกโปรแกรมให้ชอบคนหน้าตาดี คนที่ดูดีภายนอกมักได้รับโอกาสมากกว่า แม้แต่ในกระบวนการยุติธรรม เขายังได้รับโทษเบากว่าคนที่ดูไม่น่าไว้วางใจ

ผมไปฟังพอดแคสต์หนึ่งของ ดร.ตริน นักอาชญาวิทยา เขาเล่าว่า ในการทดลองหนึ่ง พบว่าเด็กที่หน้าตาดี มีแนวโน้มได้คะแนนมากกว่า ถึงแม้งานจะเหมือนกันกับเด็กคนอื่น 

แม้แต่ในระบบยุติธรรม คนที่หน้าตาดีก็มีแนวโน้มจะได้ประกันตัวง่ายกว่า แม้จะทำผิดเหมือนกันกับคนที่หน้าตาไม่ดี เพราะจิตใต้สำนึกของเราก็ชอบคนหน้าตาดี

“มนุษย์ตัดสินใจภายใน 15 วินาทีแรกจากหน้าตาไม่ใช่จากใจ”  

 

มิน่า, ศัลยธรรมจึงเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีรายได้สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สรุป "การรู้เท่าทันความเป็นมนุษย์ คือ เกราะป้องกันที่ดีที่สุด"  

  1. รู้ใจตัวเองว่า ความเป็นมนุษย์ของเรานั้นเป็นอย่างไร ทั้งด้านสว่างและด้านมืด
  2. อาชญากรก็รู้สึกและคิดแบบนั้นนั่นหละ
  3. หากเริ่มล้ำเส้น ให้ฉุกใจ 'เอ๊ะ' และ หาคำตอบกับความเอ๊ะนั่นให้ได้จนถึงที่สุดก่อนจะเดินไปต่อ
  4. เมื่อไหร่ที่ 'เอ๊ะ' ต้องไม่ให้เขารู้ตัว แต่ให้เรารู้ตัว และ หยุดการกระทำสำคัญก่อน เช่น การโอนเงิน, การเซ็นต์สัญญา, การเปิดเผยข้อมูล, การพบเจอกัน ฯลฯ
     

แต่ถ้าคุณตัดสินเขาในไม่กี่วินาทีแรก คุณอาจไม่ได้รับโอกาสจากคนที่มีหัวใจที่ดีก็ได้

ผมเคยทำงานที่บริษัทฯ แห่งหนึ่งย่านถนนสีลม ตึกสูงของบริษัทฯ นี้ ขึ้นชื่อว่า คัดคน ทั้งดีเรื่องความสามารถ และ ทั้งดีที่รูปร่างหน้าตา หุ่นต้องดี บุคลิกต้องดี (โดยเฉพาะจบจากจุฬาฯ ธรรมศาสตร์) เข้าออฟฟิศไว้ก่อน บริษัท ฯ เลือกได้ เพราะใหญ่มาก ๆ ใคร ๆ ก็อยากเข้าไปทำงาน

แต่เพราะแผนกของผมมันขาดคนมานาน จนกระทั่งมีน้องคนหนึ่งเข้ามาสมัครงาน หน้าตาไม่ได้หล่อเลย เรียกได้ว่า เหมือนแกะดำในแผนกของผม จากรูปที่แนบมาก็ไม่ผ่านแล้ว แต่ความสามารถได้และเด่นมาก เขียนโค้ดนี่อย่างเร็ว ได้หลายภาษา ตรรกะแม่น อธิบายกับคนก็เกือบจะเพอร์เฟ็กต์

ที่สำคัญ คือ เป็นคนพูดจาดีมีหลักการ แต่สุภาพ ช้า ๆ ผม (ก็ยอมรับว่า อยากได้คนหน้าตาดีดีหน่อย แต่งานมันโหลดมานานแล้ว) ก็เลยรับเข้ามา
  
ช่วงแรกของการทำงาน ผมสังเกตเห็นว่า เขาถูกเลือกปฏิบัติจากเพื่อนร่วมงานบ้าง และ มีการบูลลี่น้องเล็ก ๆ ด้วย แต่พอผ่านทดลองงาน เขาก็ก็กลายเป็นคนที่ทุกคนไว้ใจ เพราะเขาตรงไปตรงมา ไม่โกหก สุภาพ จริงใจ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานตลอด แล้วน้องเขาพัฒนารูปร่างหน้าตาตัวเอง จนถือว่าผ่านเกณฑ์เลยหละ

 

มีงานวิจัยบอกว่า มนุษย์เรามักตัดสินใจชอบหรือไม่ชอบใครภายใน 15 วินาทีแรก จากแค่รูปลักษณ์ภายนอก  

คือ เรารู้แหละว่า คุณค่าของคนไม่ใช่หน้าตา แต่คือ “ความซื่อสัตย์” “ความจริงใจ” และ “ความเมตตา” ที่มีในคน ๆ นั้น .. แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ มนุษย์ก็ยังชอบคนที่หน้าตาดูดีกว่า (เมื่อเลือกได้)

 


 

ดังนั้น การระวังตัวของคุณจนล้ำเส้น ตัดสินใครเร็วเกินไป มันจะเปลี่ยนคุณให้กลายเป็น 'คนไม่น่าคบ' ได้เช่นกัน และคุณจะกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ หวาดระแวง และ ดูคิดลบ คิดร้ายกับเกือบทุกเรื่องที่ผู้คนวิ่งเข้ามา 'ขอความช่วยเหลือ' จากคุณ

ความยากของความเป็นมนุษย์อันหนึ่งสำหรับผม ก็คือ จุดสมดุลระหว่าง การเป็นคนที่จิตใจดีที่ให้แล้วมีความสุข กับ การเป็นคนดีที่กลายเป็นเหยื่อให้ทุกข์ มันตั้งอยู่บนเส้นบางมาก ๆ  บางและใสเสียยิ่งกว่า หนวดแมงกระพรุน

แต่บทสรุปที่เหนือสิ่งอื่นใดของวันนี้ คือ ศัลยธรรมเป็นธุรกิจหนึ่งที่ผมคิดว่า น่าสนใจจริง ๆ  5555+
 

 

สูญเสียคนรัก ความโดดเดี่ยว ความเหงา ไม่มีเพื่อน เดียวดาย มิตรภาพ เพื่อน สายสัมพันธ์ หลอกลวง อาชญากรรม ความรัก เพื่อนออนไลน์
เก็บไว้ในคลัง 0
ผู้สนับสนุน
ยังไม่มีคอมเมนต์
เฉพาะสมาชิก กรุณาเข้าระบบสมาชิก คลิกที่นี่
ชีวิตอันแสนสั้น เรากำลังทำสิ่งใด
ทางลัด