S-ERUM อาหารผิววิตามินซีเออีเข้มข้น
โพรไฟล์ ไลน์ 0
× ปิด

รู้สึกเป็นตัวถ่วงครอบครัวใช่ไหม? นี่คือสิ่งที่วัยเรียนควรรู้

กำลังรู้สึกเป็นภาระหรือเป็นตัวถ่วงครอบครัว? อ่าน 5 วิธีปรับมุมคิด จัดการความกังวลวัยเรียน และค้นพบคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง

ครอบครัว มี 1 บทความในหมวดหมู่นี้

เผยแพร่ :

ปรับปรุง :

แชร์ให้เพื่อน
รู้สึกเป็นตัวถ่วงครอบครัว ? 5 วิธีจัดการความรู้สึกผิดในวัยเรียน
ความสุขในการทำงานเริ่มได้ง่าย ๆ จากการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และมีผู้นำที่เข้าใจวัฒนธรรม Slow and Steady

ความรู้สึกอึดอัดใจและเหนื่อยล้าจากการเห็นพ่อแม่ทำงานหนักเพื่อส่งเสียเราเรียน ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก และค่าใช้จ่ายรายวัน เป็นสิ่งที่นักศึกษาหลายคนต้องเผชิญ ยิ่งเมื่อผลการเรียนไม่เป็นไปตามคาด หรือเมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนที่เริ่มทำงานมีรายได้ ความรู้สึกผิดและมองว่าตัวเองเป็น "ภาระ" ก็ยิ่งเกาะกุมหัวใจ ความเครียดนี้หากไม่ได้รับการจัดการ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรง และสร้างบาดแผลในความสัมพันธ์ของครอบครัวได้

ไขสาเหตุ: ทำไมความรู้สึก "เป็นภาระ" ถึงเกิดขึ้น

ความรู้สึก "เป็นภาระ" ในวัยเรียนไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีรากฐานจากปัจจัยหลักสามประการที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น โดยเริ่มจาก การรับรู้ความลำบาก ของพ่อแม่ที่ทำงานหนักเพื่อค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้เกิดความรู้สึก "เป็นหนี้บุญคุณ" ที่กดดันให้อยากตอบแทนทันที สิ่งนี้เชื่อมโยงกับ การลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นมุมมองของพ่อแม่ที่เห็นลูกเป็นโอกาสสร้างอนาคต ไม่ใช่ภาระชั่วคราว แต่ในมุมของวัยเรียน มันกลับกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้รู้สึกผิดหากไม่สามารถตอบแทนได้ทันที

อีกปัจจัยสำคัญคือ แรงกดดันด้านการเรียน ที่เพิ่มขึ้นเมื่อผลการเรียนไม่เป็นไปตามคาดหวังของครอบครัว ซึ่งนำไปสู่ ความรู้สึกผิดจะยิ่งทวีคูณ ตามที่งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังจากครอบครัวส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของนักศึกษาโดยตรง ผู้เรียนจึงมองตัวเองเป็น "ผู้ลงทุน" ที่ทำให้ครอบครัวผิดหวัง สิ่งนี้สัมพันธ์กับ Sense of Control หรือความรู้สึกมีอำนาจเหนือชีวิตที่ช่วยลดความเครียด หากขาดสิ่งนี้ ความกดดันจะยิ่งสะสมและทำให้รู้สึกไร้ทางออก

สุดท้ายคือ การเปรียบเทียบทางสังคม ในยุคโซเชียลมีเดีย ที่เห็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันประสบความสำเร็จทางการเงิน ทำให้เกิดความรู้สึก "ล้าหลัง" หรือ "เป็นตัวถ่วง" ซึ่งเป็น ปรากฏการณ์ที่เกิดจากโซเชียลมีเดีย นำไปสู่ความรู้สึกด้อยค่า เมื่อเทียบกับผู้อื่น ปัจจัยนี้เชื่อมโยงกับ Endorphins หรือสารแห่งความสุขในสมองที่ช่วยปรับอารมณ์ หากขาดการกระตุ้นจากกิจกรรมบวก ความเปรียบเทียบจะยิ่งทำให้ความรู้สึกเป็นภาระรุนแรงขึ้น สร้างวงจรอุบาทว์ที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน

  • การรับรู้ความลำบาก: การได้เห็นความพยายามและความเหนื่อยยากของพ่อแม่ในการหาเงิน ทำให้เกิดความรู้สึก "เป็นหนี้บุญคุณ" ที่อยากรีบตอบแทน
  • แรงกดดันด้านการเรียน: เมื่อผลการเรียนไม่ดี หรือไม่เป็นไปตามที่ครอบครัวคาดหวัง ความรู้สึกผิดจะยิ่งทวีคูณ เพราะรู้สึกว่าทำให้ "ผู้ลงทุน" ผิดหวัง
  • การเปรียบเทียบทางสังคม: ในยุคโซเชียลมีเดีย การเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันเริ่มทำงาน มีรายได้ หรือประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบและรู้สึกว่าตัวเอง "ล้าหลัง" หรือ "เป็นตัวถ่วง"

ดังนั้น ศัพท์สำคัญเข้าใจง่าย ๆ เอาไว้ใช้ในความเข้าใจต่อปัญหานี้ คือ

Sense of Control
ความรู้สึกมีอำนาจเหนือชีวิตที่ช่วยลดความเครียดโดยการโฟกัสสิ่งที่ควบคุมได้
Endorphins
สารเคมีในสมองที่เรียกว่า "สารแห่งความสุข" ช่วยปรับอารมณ์และลดความวิตกกังวล
การลงทุนระยะยาว
มุมมองของพ่อแม่ที่มองลูกเป็นโอกาสสร้างอนาคต ไม่ใช่ภาระชั่วคราว
การเปรียบเทียบทางสังคม
ปรากฏการณ์ที่เกิดจากโซเชียลมีเดีย นำไปสู่ความรู้สึกด้อยค่าเมื่อเทียบกับผู้อื่น

ภาพนักศึกษามองเกรดในหน้าจอด้วยสายตากังวล มุมมองแอบถ่ายจากด้านหลัง บรรยากาศหม่นแสดงแรงกดดันเรื่องผลการเรียนที่ไม่เป็นไปตามคาด

ปรับมุมคิดใหม่ พ่อแม่มองคุณ "เป็นความรัก" ไม่ใช่ "ภาระ"

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องตระหนักคือ ในสายตาของพ่อแม่ส่วนใหญ่ ลูกคือ "การปลูกความรักไปตลอดชีวิต" ที่มีคุณค่าที่สุด ไม่ใช่ "ภาระชั่วคราว" พวกเขายอมเหนื่อยวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีของลูก ในช่วงวัยเรียน หน้าที่หลักของคุณไม่ใช่การหาเงิน แต่คือการตั้งใจเรียน ดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต การแสดงความขอบคุณผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ และการสื่อสารที่ดี คือ "ผลตอบแทน" ที่มีค่าที่สุดสำหรับพวกเขาในตอนนี้

ภาพนักศึกษามองเกรดในหน้าจอด้วยสายตากังวล มุมมองแอบถ่ายจากด้านหลัง บรรยากาศหม่นแสดงแรงกดดันเรื่องผลการเรียนที่ไม่เป็นไปตามคาด

5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยลดความรู้สึกนี้

หากคุณกำลังจมอยู่กับความรู้สึกผิด ลองนำขั้นตอนเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อปลดล็อกหัวใจให้เบาสบายขึ้น

  1. เปิดใจคุยกับพ่อแม่: หาเวลาพูดคุยอย่างจริงใจ เริ่มด้วยคำขอบคุณหรือถามไถ่ความเหนื่อยล้า เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน
  2. โฟกัสที่สิ่งที่ควบคุมได้: วางแผนการเรียนและดูแลสุขภาพอย่างมีวินัย เพื่อสร้าง Sense of Control ที่ช่วยลดความกดดัน
  3. มองหาคุณค่าในตัวเอง: สำรวจจุดแข็งและทำกิจกรรมที่ช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อหยุดวงจรเปรียบเทียบ
  4. หารายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ: เลือกงานที่ไม่กระทบการเรียน เช่น ติวหนังสือหรือฟรีแลนซ์ เพื่อเพิ่มความรู้สึกพึ่งพาตัวเอง
  5. ดูแลสุขภาพจิตด้วยการออกกำลังกาย: ออกกำลังกายวันละ 20-30 นาที เพื่อหลั่ง Endorphins ที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์

กำลังใจสำหรับก้าวต่อไป

ชีวิตวัยเรียนคือช่วงเวลาแห่งการ "เตรียมพร้อม" และ "เรียนรู้" ไม่ใช่ช่วงเวลาตัดสินคุณค่าของตัวเองจากรายได้หรือผลงานชั่วคราว ความรู้สึกผิดที่มีในวันนี้ แสดงว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและรักครอบครัวมาก ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ทีละน้อย แล้วจะพบว่าความรู้สึกอึดอัดค่อยๆ จางลง และความสัมพันธ์ในครอบครัวจะอบอุ่นยิ่งขึ้น

ภาพนักศึกษาออกกำลังกายยามเย็นที่สวนสาธารณะ มุมมองแอบถ่ายจากระยะไกล บรรยากาศอบอุ่นช่วยสื่อถึงการดูแลสุขภาพใจด้วยกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น

หากยังไม่รู้สึกดีขึ้น ให้ขอความช่วยเหลือ แบบไม่เปิดเผย ?

การดูแลสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญ ข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิตปี 2025 ชี้ว่าปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่นและนักศึกษาไทยกำลังวิกฤต นักศึกษามีภาวะเครียดและซึมเศร้าสูงถึง 30% โดยกลุ่มอายุ 20-29 ปี มีเสี่ยงซึมเศร้า 29.54% และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 17.53%

หากคุณรู้สึกว่าความรู้สึกเหล่านี้หนักหนาเกินไปจนรับมือไม่ไหว หรือเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำเป็นเวลานาน อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

ติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง) เพื่อรับคำปรึกษาและเริ่มต้นใหม่ได้ทันที

ภาพนักศึกษานั่งมองท้องฟ้าในยามเย็น มุมมองแอบถ่ายจากด้านหลัง บรรยากาศอบอุ่นสะท้อนความหวังและการมองเห็นคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง

คุณ คือ ความหวังของพ่อแม่ในบั้นปลายชีวิต คุณจึงไม่ใช่ภาระ

การรู้สึกผิดที่ต้องพึ่งพาครอบครัวเป็นเรื่องปกติในวัยเรียน แต่อย่าปล่อยให้ความรู้สึกนั้นบั่นทอนคุณค่าในตัวเอง คุณคือความหวังและอนาคตของครอบครัว การตั้งใจเรียน ดูแลตัวเอง และสื่อสารกับพวกเขาอย่างจริงใจ คือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้ และนั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ

บางครั้ง ความรู้สึกเป็นภาระไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีค่า แต่แปลว่าคุณรักมากเกินไป จนกลายเป็นภาระที่ตัวเองต้องแบกไว้ แต่ความรักนั้นไม่ควรถูกตัดสินด้วยความรู้สึกผิด คุณไม่จำเป็นต้อง "ดีขึ้น" เพื่อให้มีค่า แค่คุณยังเดินต่อ คุณก็มีค่าแล้ว คุณไม่ได้อยู่คนเดียว หลายคนเคยรู้สึกแบบนี้ หลายคนกำลังรู้สึกอยู่ในวันนี้ และหลายคนกำลังเริ่มต้นใหม่ด้วยความหวัง

หากคุณเคยรู้สึกว่า "ฉันคือตัวถ่วง" หรือ "ฉันยังไม่พอ" ขอให้ลองบอกกับตัวเองว่า "ฉันพยายามเต็มที่แล้ว และนั่นก็เพียงพอแล้ว" เพราะความพยายามคือสิ่งที่พ่อแม่เห็น ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์

หากคุณอยากแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวันที่รู้สึกหมดแรง หรือวันที่ตัดสินใจพูดกับพ่อแม่ครั้งแรก หรือแค่ประโยคที่ทำให้หัวใจเบาขึ้น เว็บบอร์ดแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต ยินดีเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่คุณสามารถซ่อนตัวตนได้ และจะไม่มีใครตัดสิน ไม่มีใครบอกว่า "คุณต้องดีขึ้น" แค่คุณมาแบ่งปันร่วมกัน ก็เป็นก้าวแรกของการเยียวยาหัวใจแล้ว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ทำไมถึงรู้สึกเป็นภาระให้ครอบครัว?
พ่อแม่มองว่าเป็นภาระจริงๆ หรือ?
ควรเริ่มทำงาน part-time ตอนเรียนไหม?
การออกกำลังกายช่วยลดความเครียดได้ยังไง?
เมื่อไหร่ที่ควรขอความช่วยเหลือ?
S-ERUM สบู่เซรัมเขากวาง สารสกัดธรรมชาติเพื่อเผยผิวใสตั้งแต่ล้างหน้า ราคา 65 บาท ฿490.00 - ฿590.00
S-ERUM สบู่เซรัมเขากวาง สารสกัดธรรมชาติเพื่อเผยผิวใสตั้งแต่ล้างหน้า ราคา 65 บาท ฿490.00 - ฿590.00
S-ERUM สบู่เซรัมเขากวาง สารสกัดธรรมชาติเพื่อเผยผิวใสตั้งแต่ล้างหน้า ราคา 65 บาท ฿490.00 - ฿590.00
S-ERUM สบู่เซรัมเขากวาง สารสกัดธรรมชาติเพื่อเผยผิวใสตั้งแต่ล้างหน้า ราคา 65 บาท ฿490.00 - ฿590.00
ยังไม่มีคอมเมนต์
แสดงความเห็นเฉพาะสมาชิก คลิกที่นี่เพื่อเข้าระบบ
เข้าระบบสมาชิกเพื่อร่วมสนุกตอบคำถามสะสมคะแนนกับฮักทูฮีล
เวลาในการอ่าน
00:00
"ชีวิตอันแสนสั้น เรากำลังทำสิ่งใด"
Foot Image
ทางลัด
สารบัญ