คนคิดมาก มักจะอยู่คนเดียว (เหงา ๆ)
"ยิ่งเราคิดอะไรลึก ๆ ลงไปเยอะ ๆ มันก็ยิ่งเหงามากขึ้นทุกที"
ถ้าใครเคยเข้าไปในห้องที่คนเยอะแยะไปหมด แต่กลับรู้สึกเหมือนเราอยู่คนเดียวเดี่ยว ๆ นั่นแหละ คุณคงเข้าใจความรู้สึกนี้ดีกว่าใครเลย
คุณอแล็ง เดอ บอตตง (เขาเป็นคนเขียนหนังสือเก่ง ๆ ชอบพูดให้ความรู้ดี ๆ) เคยเล่าในรายการของเขาว่า การคิดอะไรลึกซึ้งเยอะ ๆ เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องดีเด่นอะไรหรอกนะ แต่มันเหมือนภาระที่เราต้องแบกไว้ คนที่ชอบคิดอะไรลึก ๆ มองทะลุปรุโปร่งเรื่องรอบตัว มองหาเหตุผลเบื้องหลังคำพูด หรือแม้แต่เข้าใจว่า 'ความรู้สึก' มันก็แค่ข้อมูลอย่างหนึ่ง... คนพวกนี้มักจะต้องแลกอะไรบางอย่างไป โดยเฉพาะ การได้คุยกับคนอื่นแบบง่าย ๆ ไม่ต้องคิดมาก
มาดูกันว่ามันต้องแลกกับอะไรบ้าง
1. ยิ่งคิดซ้อนชั้นเยอะ ยิ่งรู้สึกห่างจากคนอื่น
เวลาที่เราเริ่มคิดอะไรเป็นชั้น ๆ (แบบว่าคิดซ้อนกันไปเรื่อย ๆ) มองเห็นอะไรที่คนอื่นยังไม่ทันเห็น มองคำพูดเป็นแบบแผน มองความเงียบเป็นแผนการ หรือมองความเจ็บปวดเป็นแค่ข้อมูล... นั่นแหละครับ คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้สึก "ห่าง" จากโลกภายนอก
มันไม่ใช่ว่าเราไม่อยากคุยกับใครหรอกนะ แต่เพราะ ภาษาที่เราใช้ในใจมันเริ่มไม่เหมือนคนอื่น เราอาจจะพูดถึง "ทำไม" ในตอนที่คนอื่นกำลังพูดถึง "อะไร" เราเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในวันที่คนอื่นยังมองแต่ภาพข้างหน้า นี่แหละคือ ค่าธรรมเนียมของการคิดแบบซ้อนชั้น ที่หลายคนไม่เคยบอกกันเลย
2. คนที่อยู่กับความเงียบได้ดี
คนที่คิดลึก ๆ มักจะไม่กลัวความเงียบหรอกครับ เพราะเขารู้ว่าในความเงียบนั้น... มีคำตอบบางอย่างซ่อนอยู่เสมอ คุณจะสังเกตเห็นว่าเรื่องสำคัญ ๆ ในชีวิตของเราเนี่ย มักจะไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่เสียงเชียร์ดังกระหึ่ม แต่มันเกิดขึ้นตอนที่เรานั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว
ถ้าเงียบไม่พอ คุณจะได้ยินแค่เสียงสะท้อนจากโลกภายนอก แต่ถ้าเงียบมากพอ คุณจะเริ่มได้ยินเสียงจากใจตัวเอง คนที่คิดลึกจริง ๆ ไม่ได้มองหาคนเยอะแยะหรอกครับ เขาแค่มองหา "คนวงใน" กลุ่มเล็ก ๆ ที่เข้าใจว่า ความเงียบ... มันก็มีภาษาของมันเอง
3. เหงาไม่ได้แปลว่าเราไม่ดี: แค่มองใหม่
เราโตมาในสังคมที่สอนว่า "อยู่คนเดียว" คือ "แพ้" คนเพื่อนน้อยจะโดนว่าไม่มีเพื่อนคบใช่ไหมครับ? แต่นั่นอาจจะเป็นความคิดที่ผิดมาตั้งแต่แรกก็ได้
ความเงียบเหงา... อาจไม่ใช่จุดอ่อนในชีวิต แต่มันคือ ที่ว่างให้เรา "จัดเรียงความคิด" แบบไม่มีใครมากวน มันคือโอกาสที่เราจะได้ทบทวนเส้นทางชีวิต เป็นสนามฝึกซ้อมให้เราเข้าใจตัวเองได้ชัดเจนขึ้น เป็นห้องทดลองเงียบ ๆ ที่เราได้เติมเต็มความเชื่อของตัวเอง
การมองความเหงาให้เป็น "การแยกตัวออกไปคิดวางแผน" คือการที่เรา "เอาคืน" พื้นที่ส่วนตัวในใจ ที่โดนโลกภายนอกเข้ามาวุ่นวายมานานแล้ว
4. คุณไม่ได้บ้า... แค่คุณนำหน้าไปก่อน
คุณอแล็ง เดอ บอตตง บอกว่าเราไม่ได้เป็นบ้าหรอกนะ ถ้าเรามีคำถามพวกนี้อยู่ในหัวบ่อย ๆ: "ฉันคิดมากไปไหม?" "ฉันชอบอะไรแบบนี้อยู่คนเดียวหรือเปล่า?" "ทำไมรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลกกับคนรอบตัว?"
บางที... คำตอบอาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่าเราผิด แต่เป็นเพราะ เราอาจจะคิดอะไรเร็วกว่าคนอื่นไปหน่อย และในบางช่วงชีวิต สิ่งที่เราต้องการ อาจไม่ใช่ "ใครสักคน" ที่จะมาทำให้เราเต็ม แต่เป็น "ความเงียบสงบแบบหนึ่ง" ที่เปิดทางให้ความคิดของเราได้เติบโตเต็มที่โดยไม่มีใครมาขัดจังหวะ
คิดสุดท้าย: ไม่ต้องหนีความเหงา
ถ้าเราเข้าใจเรื่องความเหงา เราควร "อยู่กับมันให้เป็น" เราอาจจะยังไม่ต้องรีบเข้าใจทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ไว้ว่า... คนที่คิดลึก ๆ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ความเงียบไม่ได้แปลว่าเราไม่มีอะไรจะพูด และความเหงา... ไม่ได้แปลว่าเราไม่สมควรมีใครมาอยู่ข้าง ๆ
สุดท้ายแล้ว ความเหงาอาจไม่ใช่ "ราคาที่เราต้องจ่ายกับการคิดลึก" แต่มันคือ "ของขวัญอย่างหนึ่ง" ที่จะเปิดให้เฉพาะคนที่กล้าลงลึกในระดับที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าไป มันเป็นแค่ "ช่วงเวลา" หนึ่งของการเติบโตบางแบบ ที่ต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นนิดหน่อย
แต่พอผ่านไปแล้ว... ความสัมพันธ์ที่เราจะสร้างต่อจากนี้ จะเป็นแบบที่ "ฟังความเงียบของเรา แล้วเข้าใจมันจริง ๆ"
และบางครั้ง... การอยู่คนเดียวไม่ได้แปลว่าเราถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่มันคือ การเลือกอยู่กับตัวเองแบบรู้ตัว คือการรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีเสียงใครมาบอกว่าเส้นทางที่เราเดิน... มันมีความหมาย
คุณอยู่คนเดียวได้สบาย ๆ — โดยไม่รู้สึกเหงาเลย
แชร์ให้เพื่อน














ยังไม่มีความเห็น
ยืนยันการลบความเห็น